NAS101 : TrueNAS บทที่ 1 เริ่มต้น Hardware และ Installation

NAS101 : TrueNAS บทที่ 1 เริ่มต้น Hardware และ Installation

TrueNAS หรือ Network Attached Storage


เราจะเริ่มต้นการสร้าง NAS จากคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าด้วย TrueNAS Core OS (ชื่อเดิมคือ FreeNAS แต่ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น TrueNAS โดยจะแบ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ให้ใช้ฟรี คือ TrueNAS Core และเวอร์ชั่นสำหรับขายให้องค์กร จะใช้ชื่อว่า TrueNAS Enterprise รองรับหลายๆ Nodes)

TrueNAS หรือ FreeNAS คืออะไร
FreeNAS มันเป็นการรวม OS และ Program NAS ไว้ในตัวเดียวกันเลย ดังนั้น มันไม่จำเป็นต้องลง Linux หรือ Windows เลย โดยตัวมันเป็น OpenSource ที่พัฒนามาบน FreeBSD รองรับการทำงานที่หลากหลาย มันฟรี  แต่บริษัทขนาดใหญ่มักจะเลือกใช้ Microsoft Windows Server ในการจัดเก็บไฟล์ มากกว่า เนื่องจากมันง่ายต่อการทำงานร่วมกับ Active Directory Services (AD)

โดยหลักการ มันจะจัดการไฟล์แบบ ZFS (เป็นระบบไฟล์เดียวกับ Oracle File system)  ช่วยปกป้องข้อมูลของเราให้มีความปลอดภัยสูงมาก  และยังรองรับการทำเรด (Raid) อีกด้วย

มันสามารถทำอะไรได้บ้าง
Sharing File (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของการสร้างโปรแกรมนี้เป็นหลักเลย หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า มันสามารถเป็น NAS ระดับองค์กรได้เลย) อย่าง CIFS (Samba บน Linux ถ้าใช้ตัวนี้ ห้ามเปิดประตูสู่ Internet เด็ดขาด )
Protocal อย่าง  FTP TFTP, NFS, SSH, rsync, AFP and UPnP.
Dynamic DNS รองรับ DynDNS , No-Ip  หรือ freedns
File System สนับสนุนทั้ง UFS NTFS FAT32 , AFP RSYNC iSCSI (Visual Disk) 
และสามารถ Config Harddisk ให้เป็นแบบ RAID  (0, 1, 5) รวมถึง Disk Encryption ได้อีกด้วย

โดยเฉพาะ OpenZFS ที่จะจัดการคล้ายๆ กับ Raid 5 (Harddisk เสีย ข้อมูลก็ไม่หาย)

มันทำอะไรได้บ้าง
1. Virtualization (VM ware)
2. VPN 
3. Plugin ต่างๆ 

วิธีทำ คอมพิวเตอร์ หรือ Server เครื่องเก่าให้กลายเป็น NAS
1. Download OS
ที่ชื่อ FreeNAS หรือ TrueNAS (เลือกเวอร์ชั่น Stable เท่านั้น)
เริ่มแรกจะได้ไฟล์ ISO ออกมา ต่อมาก็ใช้ Rufus ในการสร้าง Bootable USB ได้เลย

2. อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
 - คอมพิวเตอร์ (Requirement) 
CPU ควรเน้นไปที่จำนวน Core ที่มีจำนวนมากๆ ไว้ก่อน เพื่อรองรับ User จำนวนมาก (ถ้าให้ดี เป็น CPU ตระกูลสำหรับ Server ก็จะดีที่สุด) 
Ram อย่างต่ำควรใช้ 16 Gb หากเป็นระดับองค์กรแนะนำ 32 Gb ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับจำนวน User ผู้ใช้งาน)
โดย CPU กับ Ram 2 อย่างนี้ ถือว่ามีผลต่อ Performance อย่างมาก)

- Bootable USB   1 อัน (อันนี้เอาไว้ทำขั้นตอนที่ 1)

 USB/SSD/HDD (for System)
  (สำหรับลงโปรแกรม) คำเตือน เมื่อลง FreeNAS แล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะหายไป และ Harddisk ลูกนี้จะไม่สามารถแชร์ไฟล์ได้เลย เป็นได้แค่ System ของระบบเท่านั้น โดย Harddisk ลูกนี้ เราจะเน้นไปที่ความเร็วในการอ่าน เขียน ข้อมูลเป็นหลัก คือ พวก SSD หรือ  M.2 NvME จะดีกว่า
ขณะที่ถ้าใช้ Haddisk หลายลูกต่อ 1 Pool จะยิ่งเร็วกว่า และปลอดภัยกว่า
** คำแนะนำ คือ ให้ลง Harddisk สำหรับ OS  ตัวเดียวก่อน ตอนลงโปรแกรม เพื่อป้องกันความผิดพลาด** 

- HDD ที่ต้องการแชร์ (For File Sharing) (ต้องการเท่าไหร่ก็ใส่เข้าไปให้พอ เน้นปริมาณเป็นหลั แต่ให้หลีกเลี่ยงฮาร์ดดิสแบบ  External HDD)
   กรณี อยากทำ Raid 0 (รวม Harddisk 2 ตัวเป็นหนึ่งตัว)  , 1 (สำรองกันและกัน) ,5 ,10 ก็ต่อไว้เลย (Raid ปัจจุบันทำได้ทั้งในส่วนของ Bios และ OS ) 
- การ์ด Lan  เราเน้นระดับเทพเลย คือ  10 Gigabit (10GbE) ขึ้นไป หรืออาจะใช้ระดับ 10/100/1000 ไปเลย (ควรใช้ การ์ด 2 ช่องอย่างต่ำ แล้วทำ Rededant ด้วยซ้ำไป)

ขณะที่ถ้าสร้าง Pool  สำหรับ NAS ควรสร้าง Network วงหนึ่งเพื่อ NAS ไว้เลยจะได้ไม่กวนกับ Network ที่ใช้งาน (ตรงนี้แนะนำว่า แต่ละ NAS ควรใช้ Password ต่างกันด้วย)

- Expansion Card PCI-e to Sata Slot จะต้องมี Controller เป็น  LSI SAS HBA (SAS2008, SAS2308 หรือ SAS3008 SAS3508)

3. Installation

3.1 เสียบ Bootable USB ที่มี OS ไว้ก่อน 
(การสร้าง Media Install จะอยู่บทที่ 1.1)
3.2 เสียบ USB/SSD/HDD สำหรับลง OS
(เวปเมืองนอกบอกว่า มันอาจจะเป็นการเสียพื้นที่ไปฟรีๆ ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น แนะนำให้ใช้แค่ USB หรือ SSD ขนาดเล็กที่สุดก็พอแล้ว คือมากกว่า 8Gb ก็ใช้ได้ แต่มันจะไม่เสถียร ถ้าเราใช้ USB (ที่เกิดจากการคลอนแคลนของช่องเสียบ) และเสียง่าย จึงไม่ควรใช้ USB อยู่ดี และแนะนำให้ใช้ SSD มากกว่า)
3.3 เสียบสายแลน ให้เรียบร้อย เพื่อให้ Router กำหนดค่า IP Address ให้เรียบร้อย

เริ่มต้นลงโปรแกรม
3.4 เปิดเครื่อง แล้วเข้า BIOS เพื่อเรียก Boot จาก Bootable USB 
3.5 มันจะไล่ถามดังนี้
   - เลือกว่า Install มั้ย
   - ลงโปรแกรมไว้ที่ไหน หรือ ฮาร์ดดิสลูกไหนนั่นเอง (usb/ssd/hdd)  
   (คอมพิวเตอร์ ควรมี Ram 8 GB ขึ้นไป ตอนนี้ ระบบจะเตือนอีกครั้งว่า ข้อมูลในฮาร์ดดิสจะถูกลบหมดและข้อมูลใน ฮาร์ดดิสก้อนนี้จะไม่สามารถแชร์ออกไม่ได้)

   - สร้าง Password สำหรับ Admin (ที่ชื่อ root ตรงนี้อาจต้องจดไว้ เพราะถ้าลืมมีปัญหาแน่ๆ) 
   - เลือก Boot จากอะไร
        -  เลือก Boot จาก Bios ( เป็นแบบ Legacy เหมาะสำหรับ บอร์ดและฮาร์ดดิสรุ่นเก่า)
        -  เลือก Boot จาก UEFI (เหมาะกับ Hardware รุ่นไม่เก่ามากนัก Boot via UEFI)
   - มันจะถามต่อว่า จะใช้ Swap หรือไม่ (Swap คือ การที่แรมไม่พอแล้วมาใช้ พักความจำ บน SSD นั่นเอง มันเป็นเหตุผลที่ว่า ควรเลือก SSD แบบ NMVE เพื่อให้เร็วและแรมไม่อั้นนั่นเอง)

ถึงตรงนี้ มันจะเริ่ม Install เมื่อเสร็จสิ้นมันจะให้ ดึง USB ออก (ก่อนที่จะ Reboot อีกครั้ง) โดยก่อน Reboot มันจะถามว่า ให้ Upgrade ด้วยหรือไม่ ด้วย แต่โดยทั่วไปให้เลือก Reboot

เริ่มต้นตั้งค่า Configuration
3.6 มันจะ Reboot เสร็จแล้ว จะเริ่มให้เราตั้งค่า Configuration ต่างๆ  ช่วง Reboot อย่าลืมเสียบ สายแลน ไว้ เพราะ มันจต้องได้รับแจก IP จาก Router มา เป็นแบบ DCHP มา

IP ตรงนี้ มันจะบอกว่า ถ้าเราต้องการให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเข้ามา Access มาที่เลขที่ URL เช่น  192.168.1.40 (ตัวอย่าง)  แต่ถ้าขึ้นเป็น 0.0.0.0 ให้เช็กดูว่า เราได้เสียบสายแลนไว้รึเปล่า? หรือสายแลนมีปัญหามั้ย

ถึงตรงนี้มันจะถามว่า เราจะ Config ค่าอะไรเพิ่มรึเปล่า? 

Console setup
สำหรับ มือใหม่ เราแนะนำให้ยังไม่ต้องทำอะไรก่อน (ให้เป็นค่า Default ) เพราะถ้าเข้าไปตั้งตอนนี้ มันจะตั้งบน Shell ที่ต้องใช้คำสั่งแบบ Commanad Line คล้าย DOS ซึ่งตั้งค่าลำบาก  เราแนะนำให้ไปตั้งทีหลังบน User Interface  จะสะดวกว่า

เมื่อเราเห็นหน้า Console Setup ความจริงเราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่เราต้องทิ้งหน้านี้ไว้แล้วใช้คอมพิวเตอร์อีกเครื่องเข้าที่ IP Address ที่ให้มาได้เลย

4. First Login
มาถึงตรงนี้ เราต้องเปิดคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง เพื่อเข้า IP ที่มันได้รับแจก(จาก Router) ก่อนหน้านี้ เพื่อเข้าหน้า DashBoard ของ TrueNas

ครั้งแรกสุด มันจะถาม Login (เข้าหน้านี้ด้วย User  root ได้อันเดียวเท่านั้นเสมอ) แล้วให้กรอก Password (ตามที่เราตั้ง Password ไว้ ในหัวข้อ 3.5) มันจะให้พิมพ์ Password เดียวกัน 2 ครั้ง

ถึงตรงนี้เราจะกลับไปตั้งค่า Config ต่างๆ อีกครั้ง (คราวนี้จะตั้งง่ายกว่า เพราะเป็นแบบ UI แล้ว)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

KoolMocyc : Forza 350 สเปกต่างๆ และการแก้ไข

Stable Diffusion 101 : Extension : AnimateDiff

KoolMocyc : Forza 350 : ปัญหาประจำตัว